กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย หารือผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กระชับความสัมพันธ์ เสริมความร่วมมือด้านการค้าและการท่องเที่ยว
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้การต้อนรับ นายซุวัรกานา ปริงกานู กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ณ จังหวัดสงขลา และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือแนวทางกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ โดยมี นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์จังหวัดสงขลา นายปรมะ จำรัสโรมรัน หัวหน้าสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวสงขลา นางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา และนายอับดลเล๊าะ เอกอัคราภิบาล ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เผยว่าไทยและอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาตั้งแต่อดีต โดยมีรากฐานร่วมกันทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ อินโดนีเซียยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนที่สำคัญของภูมิภาค จังหวัดสงขลาพร้อมให้ความร่วมมือกับอินโดนีเซียในการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน โดยเตรียมจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าคุณภาพอาทิ เสื้อผ้า อุตสาหกรรม การแพทย์ และการท่องเที่ยว ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวอินโดนีเซียที่เดินทางผ่านประเทศมาเลเซียมายังสงขลา มีจำนวนมากกว่า 5,000 คน ซึ่งจังหวัดสงขลาพร้อมให้การต้อนรับและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ จังหวัดสงขลามีกำหนดจัดการฝึกซ้อมรับมือสถานการณ์น้ำมันรั่วไหล ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้เชิญชวนกงสุลใหญ่อินโดนีเซียและคณะเข้าร่วมสังเกตการณ์และให้ข้อเสนอแนะ ด้านกงสุลใหญ่อินโดนีเซียฯ ได้แสดงความยินดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมระบุว่า อินโดนีเซียมีความประสงค์ผลักดันการเปิดเส้นทางการบินใหม่ระหว่างไทยและอินโดนีเซีย อาทิ หาดใหญ่ - เมดาน และหาดใหญ่ - จาการ์ตา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองของทั้งสองประเทศ และกระตุ้นเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ปัจจุบัน มีเส้นทางบินตรงจากไทยไปอินโดนีเซีย 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ - จาการ์ตา (ให้บริการโดยการบินไทย การูดาอินโดนีเซีย แอร์เอเชีย และไลออนแอร์) และกรุงเทพฯ - เดนปาซาร์ (ให้บริการโดยแอร์เอเชีย) นอกจากนี้ กงสุลใหญ่อินโดนีเซียยังขอบคุณจังหวัดสงขลาที่ให้การดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอินโดนีเซียเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้กล่าวเชิญชวนกงสุลใหญ่อินโดนีเซียและผู้ประกอบการอินโดนีเซียร่วมเป็นเกียรติ และร่วมรับฟังข้อมูลด้านการค้าของจังหวัดสงขลาภายในงาน “เสน่ห์สงขลา” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม 2568 ณ บริเวณสระบัว แหลมสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา โดยภายในงานจะมีการเจรจาการค้าระหว่างผู้ประกอบการสินค้าโอทอปพรีเมียม (OTOP Premium) ของจังหวัดสงขลาและผู้ประกอบการจากทั้งในและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจและขยายความร่วมมือทางการค้าในระดับสากล สำหรับความสัมพันธ์ประเทศไทย-อินโดนีเซีย ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ปี 2493 และมีความร่วมมือใกล้ชิดในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม อินโดนีเซียนำเสนอนโยบายพึ่งพาตนเองและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ทำให้ไทยเป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม EV และเทคโนโลยีเกษตร ในด้านความมั่นคง ทั้งสองประเทศลงนามความร่วมมือป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ อินโดนีเซียเป็นคู่ค้าอันดับ 3 ของไทยในอาเซียน สินค้าหลักที่ค้าขายกัน ได้แก่ รถยนต์ น้ำมันดิบ และถ่านหิน การลงทุนไทยในอินโดนีเซียมีมูลค่า 185.85 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2566 โดยมีบริษัทใหญ่ เช่น เครือซีพี เอสซีจี และ ปตท. อย่างไรก็ตาม การส่งออกไทยยังเผชิญอุปสรรคจากมาตรการนำเข้าของอินโดนีเซีย ส่วนด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รวมถึงผลักดันเส้นทางบินใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองรอง
ณิชารีย์ หนูบุญ/ข่าว-ภาพ 28 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา