เลขที่บัตรประชาชน :
รหัสผ่าน :
ถามเงือกน้อย
เงือกน้อย
10.09
เงือกน้อย
สวัสดีจร้าาา... วันนี้มีอะไรให้เงือกน้อยช่วยคะ ถามเงือกน้อยมาได้เลย จะรีบไปหาคำตอบให้คะ
10.09

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 
ข่าวกิจกรรม
ผู้ว่าฯ สงขลา ร่วมประชุมรับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีผ่านระบบออนไลน์ ระบุสถานการณ์อุทกภัย จ.สงขลา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแล้ว 153,822 คน เน้นย้ำทุกภาคส่วนเร่งจัดเวทีประชาคม เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู
18 ธันวาคม 2567

ผู้ว่าฯ สงขลา ร่วมประชุมรับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีผ่านระบบออนไลน์ ระบุสถานการณ์อุทกภัย จ.สงขลา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจกว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่มีผู้ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแล้ว 153,822 คน เน้นย้ำทุกภาคส่วนเร่งจัดเวทีประชาคม เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

.

ช่วงบ่ายวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ที่ห้องประชุม Conference ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำหัวหน้าส่วนราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจ ทหาร ร่วมประชุมรับมอบนโยบายจากนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้และการให้ความช่วยเหลือ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัดภาคใต้ เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกลจากศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช

.

นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า..รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด จากการรายงานผ่านช่องทางสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเห็นได้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันรัฐบาลเองได้ลงพื้นที่อย่างทันที ตั้งแต่สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือจนมาถึงภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานในพื้นที่เร่งช่วยเหลือด้านปัจจัย 4 เน้นย้ำต้องดูแลชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งแรก นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ใช้กลไกตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วม และบูรณาการกับทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่สภาวะปกติ

.

จากนั้น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รายงานภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ในห้วงวันที่ 22 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 17 ธันวาคม 2567 ขณะนี้ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง ภาพรวมได้รับผลกระทบ 54 อำเภอ 339 ตำบล 2,676 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อนกว่า 161,000 คน มีผู้เสียชีวิต 37 ราย ในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี 3 ราย, พัทลุง 2 ราย, สงขลา 10 ราย, ปัตตานี 7 ราย, ยะลา 6 ราย, นราธิวาส 4 ราย และนครศรีธรรมราช 5 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการจมน้ำ กระแสน้ำพัด ไฟฟ้าดูด และดินสไลด์ โดยมีการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือพื้นที่ผู้ประสบภัยพิบัติรณีฉุกเฉิน ในพื้นที่ 10 จังหวัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงได้เข้าสนับสนุนเครื่องจักรกล จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมจัดตั้งกองอำนวยการส่วนหน้าขึ้น เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ณ นราธิวาส เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน ดูแลทั้ง 12 จังหวัดภาคใต้

.

โอกาสนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่เล็งเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่พื้นที่ภาคเหนือจดลงมาภาคใต้ โดยได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือประชาชน เยียวยาในอัตราสูงสุดครัวเรือนละ 9,000 บาท พร้อมกันนั้นนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตน และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนด้วย

.

ด้านนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ ทหาร ตำรวจ ภาคเอกชน จิตอาสา มูลนิธิต่าง ๆ ที่เข้าดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ และสามารถดความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลชีวิตของพี่น้องประชาชนและให้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งดูแลด้านอาหาร ยา และสถานที่พักพิง สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้มีการแจ้งเตือนภัยอย่างชัดเจนและทั่วถึง และระดมสรรพกำลังความช่วยเหลือในพื้นที่ ดูแลเรื่องน้ำ ระบบไฟฟ้า ให้กลับมาใช้งานได้ปกติโดยเร็ว

.

ขณะที่นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เผย..ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสิ่งที่ต้องดูแล และบรรเทาผลกระทบให้ได้มากที่สุด โดยได้เน้นย้ำทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ช่วยเหลือประชาชนกรณีพิเศษ ในครัวเรือนละ 9,000 บาท ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนแล้ว จำนวน 153,882 ครัวเรือน ขณะที่ด้านยอดผู้ได้รับผลกระทบมีจำนวนกว่า 260,000 ครัวเรือน สร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ด้านอำเภอได้ทำการประชาคมและส่งเรื่องเพื่อพิจารณาอนุมัติส่งมายังคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดสงขลา (ก.ช.ภ.จ.) แล้ว ประมาณ 1,900 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 0.73 จากนั้นจังหวัดจะส่งข้อมูลต่อไปยังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและส่งไปที่ธนาคารออมสิน ทั้งนี้ขอให้ทุกอำเภอเร่งจัดทำเวทีประชาคม เพื่อที่ ก.ช.ภ.จ. ประชุมเพื่อตรวจสอบและยืนยันข้อมูลต่อไป

.

สำหรับกรณีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 9 หลัง ขอให้อำเภอเร่งดำเนินการสำรวจและยืนยันความเสียหาย เพื่อให้ทางจังหวัดสามารถหาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาตามระเบียบที่กำหนด นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานประมงจังหวัด และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด เร่งสำรวจความเสียหายในพื้นที่ พร้อมศึกษาระเบียบของกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม ในส่วนของการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ขอให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัด เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้ประสบภัยโดยเร็ว ด้านสิ่งสาธารณประโยชน์ ขอให้นายอำเภอเร่งสำรวจความเสียหายทั้งหมดที่สามารถซ่อมแซมและคืนสภาพได้ เพื่อให้สามารถดำเนินการฟื้นฟูได้อย่างทันท่วงที

.

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมสั่งการให้หน่วยงานด้านความมั่นคงประสานความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างมีประสิทธิภาพ

.