ผู้ว่าฯ สงขลา มอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ 4 อำเภอเขตเศรษฐกิจ เน้นย้ำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องสนับสนุนภาจกิจนายอำเภอ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด มุ่ง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่ประชาชน

.

วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่ เทศบาลตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่มอบแนวทางการปฏิบัติราชการแก่นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองสงขลา อำเภอหาดใหญ่ อำเภอคลองหอยโข่ง และอำเภอสะเดา เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง และจังหวัดสงขลา เพื่อให้การทำงานเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันและมีประสิทธิภาพ โดยมี นายวรพันธุ์ สุวรรณยุหะ ปลัดจังหวัดสงขลา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุม

.

โอกาสนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ในการสนับสนุนภารกิจของนายอำเภอ โดยมอบแนวทางการปฏิบัติงานหลัก ดังนี้ 1) การอำนวยความเป็นธรรมและดูแลความสงบเรียบร้อย ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มงวด เพื่อรักษาความสงบและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ 2) สร้างความสมัครสมานสามัคคีในชุมชน ส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น 3) รับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชน นำเสนอปัญหาและความต้องการของราษฎรต่อนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัด 4) สนับสนุนกิจการของอำเภอ รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ราษฎรและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ 5) กำกับดูแลให้ราษฎรปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบของทางราชการ พร้อมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีในชุมชน 6) กำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ การทำงานของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ทั้งฝ่ายปกครอง และฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ 7) สอดส่องดูแลการกระทำผิดกฎหมาย ในการเฝ้าระวังและรายงานการกระทำผิดหรือสิ่งของผิดกฎหมายในพื้นที่ต่อกำนันและนายอำเภอ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

.

การขับเคลื่อนจังหวัดสงขลา ภายใต้นโยบายสำคัญของรัฐบาลที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ถูกกำหนดในแผนพัฒนาจังหวัดสงขลา โดยมุ่งเน้น 4 ด้านสำคัญ “ด้านเศรษฐกิจ” มุ่งพัฒนาภาคการเกษตร อุตสาหกรรม การค้า บริการ และการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่าการผลิตและสร้างรายได้ให้กับประชาชนมากขึ้น “ด้านสังคม” ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่กันไป “ด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย” ถือเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม “ด้านทรัพยากรธรรมชาติ” มุ่งพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เพื่อให้เป็นฐานการผลิตที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับประชาชนในจังหวัดสงขลา

.

สำหรับการช่วยเหลือ เยียวยาประชาชนจากกรณีเกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 อนุมัติการเยียวยาผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย ภายใต้เงื่อนไข 2 ข้อ คือ กรณีที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่น้ำท่วม ไม่เกิน 7 วันและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย และกรณีที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขังเกินกว่า 7 วัน ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กำชับให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย เร่งดำเนินการลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อให้จังหวัดรับรองและส่งข้อมูลไปยังส่วนกลางสำหรับการดำเนินการต่อไป

.

ส่วนการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง ขอให้อำเภอเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อดำเนินการสงเคราะห์ผู้ประสบภัยให้ครบถ้วน สำหรับด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ขอให้ตรวจสอบข้อมูลความเสียหาย เพื่อเร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันสำหรับสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมทรัพย์สินที่ได้รับผลกระทบให้กลับคืนสู่สภาพปกติ พร้อมกันนี้ การเยียวยาตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ขอให้นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน อำนวยความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ตามภารกิจของกระทรวงมหาดไทย “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่ประชาชน

.

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยเฉพาะในช่วง 7 วันอันตราย (27 ธันวาคม 2567 ถึง 2 มกราคม 2568) จังหวัดสงขลามีกิจกรรมมากมายเกิดขึ้นในพื้นที่ จึงขอเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วน ทั้งนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ดูแลความปลอดภัยของประชาชนอย่างเคร่งครัด จังหวัดได้บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เปิดปฏิบัติการใน 4 ด้าน ได้แก่ ถนน ราง รถ และอากาศ เพื่อมุ่งสร้างความปลอดภัยในพื้นที่