สงขลาจับจริง “ดื่มแล้วขับ” นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะที่ยอดอุบัติเหตุสะสม 9 วันช่วงควบคุมเข้มข้นเทศกาลปีใหม่ 2568 เกิดอุบัติเหตุรวม 56 ครั้ง บาดเจ็บ 52 ราย เสียชีวิตแล้ว 10 ราย ด้านรองผู้ว่าฯ วิทยา เน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

.

วันที่ 5 มกราคม 2568 นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 เพื่อสรุปผลการดำเนินงานในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 ซึ่งดำเนินการภายใต้แนวคิด “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนนจังหวัดสงขลา สะสม 9 วัน เกิดอุบัติเหตุแล้ว 56 ครั้ง มีผู้บากเจ็บ 52 ราย และเสียชีวิตรวม 10 ราย โดยมี นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล

.

โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้แถลงผลการป้องกันและอุบัติเหตุทางถนน ภาพรวมของประเทศ ซึ่งวันนี้เป็นการรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุวันที่ 9 ของช่วงควบคุมเข้มข้น ประจำวันที่ 4 มกราคม 2567 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 169 ครั้ง บาดเจ็บ 164 คน และเสียชีวิต 23 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ตัดหน้ากระชั้นชิด และทัศนวิสัยไม่ดี ตามลำดับ ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ภาพรวมสถิติสะสม 9 วันแรกของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567 – 4 มกราคม 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,322 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 2,251 คน ผู้เสียชีวิต รวม 393 ราย

.

จังหวัดสงขลา โดยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รายงานสถิติประจำวันที่ 4 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุ 3 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิต ปัจจัยที่นำไปสู่อุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ ขับตัดหน้ากระชั้นชิด ประเภทรถที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ คือ รถจักรยานยนต์ พฤติกรรมเสี่ยงที่นำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต คือ ตัดหน้ากระชั้นชิด และไม่สวมหมวกนิรภัย ขณะที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เผยสถิติผู้ถูกดำเนินคดี “ดื่มแล้วขับ” สะสม 9 วันแรกของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567 – 4 มกราคม 2568) จำนวน 57 ราย ส่วนผลการกวดขันจับกุมตามมาตรการ 10 ข้อหาหลักสูงสุดคือ ไม่มีใบขับขี่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย เมาสุรา ความเร็วเกินกำหนด ตามลำดับ

.

ด้าน นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในกรณี “ดื่มแล้วขับ” โดยมีมาตรการจับกุมและนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและสกัดกั้นพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด การขับขี่ในขณะมึนเมา และไม่สวมหมวกนิรภัย นอกจากนี้ ยังเน้นการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการเพิ่มทักษะของผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะวันนี้ถือเป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับบ้านหลังวันหยุดยาว จึงได้กำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบความพร้อมและความเพียงพอของรถโดยสารสาธารณะ ดูแลให้คนขับรถมีสติ ดื่มไม่ขับ พักผ่อนเพียงพอ และปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความเร็วอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนบนท้องถนน