เลขที่บัตรประชาชน :
รหัสผ่าน :
ถามเงือกน้อย
เงือกน้อย
13.15
เงือกน้อย
สวัสดีจร้าาา... วันนี้มีอะไรให้เงือกน้อยช่วยคะ ถามเงือกน้อยมาได้เลย จะรีบไปหาคำตอบให้คะ
13.15

Content on this page requires a newer version of Adobe Flash Player.

Get Adobe Flash player

 
ข่าวกิจกรรม
ยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ช่วงควบคุมเข้มข้นวันที่หก เกิดอุบัติเหตุสะสม 49 ครั้ง บาดเจ็บ 46 ราย และเสียชีวิต 6 ราย “ดื่มแล้วขับ” ยังคงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ด้านรองผู้ว่า ฯ คณิตา เร่งเดินหน้ามาตรการลดอุบัติเหตุตั้งด่านเข้มทั่วจัง
6 มกราคม 2568

ยอดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ช่วงควบคุมเข้มข้นวันที่หก เกิดอุบัติเหตุสะสม 49 ครั้ง บาดเจ็บ 46 ราย และเสียชีวิต 6 ราย “ดื่มแล้วขับ” ยังคงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ด้านรองผู้ว่า ฯ คณิตา เร่งเดินหน้ามาตรการลดอุบัติเหตุตั้งด่านเข้มทั่วจังหวัด พร้อมปลูกจิตสำนึกเยาวชน สร้างวัฒนธรรมขับขี่ปลอดภัย

.

วันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุม Conference ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำส่วนราชการร่วมประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล เพื่อสรุปผลการดำเนินงานในช่วงควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 ภายใต้แนวคิด “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ”

.

ซึ่งวันนี้เป็นการรายงานสถิติการเกิดอุบัติเหตุวันที่ 6 ของช่วงควบคุมเข้มข้น โดยข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ภาพรวมของประเทศ ประจำวันที่ 1 มกราคม 2567 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 340 คน ผู้เสียชีวิต 50 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ดื่มแล้วขับ ทัศนวิสัยไม่ดี ตามลำดับ จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (24 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (36 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (7 ราย) สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567 ถึง 1 มกราคม 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,739 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,694 คน ผู้เสียชีวิตรวม 272 ราย

.

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เน้นย้ำถึงมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ให้มีการตั้งด่านตรวจเข้มข้นบนเส้นทางสายหลักและในชุมชน เพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัย และไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ และจัดเตรียมบริการให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังแนะนำให้ผู้ขับขี่พักผ่อนเพียงพอ ขับขี่อย่างระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

.

ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 จังหวัดสงขลา เผยสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุ 13 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 12 ราย และเสียชีวิต 2 ราย อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจาก ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วเกินกำหนด และตัดหน้ากระชั้นชิด โดยรถจักรยานยนต์ เป็นประเภทรถที่เกิดเหตุสูงสุด ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย และดื่มแล้วขับ ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เวลา 00.01 - 03.00 น. ภาพรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสมตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ถึง 1 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุสะสม 49 ครั้ง บาดเจ็บ 46 ราย เสียชีวิตรวม 6 ราย

.

โอกาสนี้ นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้แสดงความชื่นชมและส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำจุดตรวจและจุดบริการประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สาธารณสุข ฝ่ายปกครอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือกันเฝ้าระวัง ป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเต็มกำลัง โดยสถิติอุบัติเหตุทางถนนในห้วงที่ผ่านมา จังหวัดสงขลาอยู่ในลำดับที่ 10 ของประเทศ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูง จึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งในช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 วันของช่วงการควบคุมเข้มข้น เนื่องจากยังมีประชาชนใช้เส้นทางสัญจรกลับภูมิลำเนาอย่างต่อเนื่อง

.

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวต่อว่า..จากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ปัจจัยหลักของการเกิดอุบัติเหตุคือ “คน” รองลงมา คือ ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ยานพาหนะ และการบังคับใช้กฎหมาย โดยสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดมักเป็นพื้นที่ชุมชน ทั้งนี้ขอเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจด่านชุมชน ถนนสายหลักและสายรอง พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกความปลอดภัย โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ทั้งนี้ขอให้มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านการศึกษา เพื่อปลูกฝังการขับขี่ปลอดภัยอย่างยั่งยืนในระยะยาว