จังหวัดสงขลา ประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายราชสดุดี เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ผู้พระราชทานนามโรงเรียนวรนารีเฉลิม
.
วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ที่ลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า โรงเรียนวรนารีเฉลิม จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มอบหมายให้ นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประกอบพิธีวางพวงมาลาและถวายราชสดุดี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 17 ธันวาคม 2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะครู สมาคมศิษย์เก่า และนักเรียนเข้าร่วมพิธีเพื่อลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระองค์ที่ทรงกอปรพระราชกรณียกิจยังความร่มเย็นเป็นสุขบังเกิดแก่อาณาประชาราษฎร์เป็นอเนกอนันต์
.
ในการนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้วางพวงมาลาดอกไม้ และจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระราชาอนุสาวรีย์ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จากนั้นกล่าวคำถวายราชสดุดี มีใจความสำคัญว่า สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า มีพระนามเดิมว่า “พระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าสว่างวัฒนา” ทรงเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับเจ้าจอมมารดาเปี่ยม เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันพุธที่ 10 กันยายน 2405 ทรงมีบทบาทภาระหน้าที่ช่วยเหลือประเทศและประชาราษฎร์ ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ผ่านเวลายาวนานถึง 6 รัชกาล คือ ตั้งแต่รัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเป็นสมเด็จย่าของพระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร และพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2498 ณ วังสระปทุม รวมพระชนมายุ 93 พรรษา
.
นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงประกอบพระกรณียกิจนานัปการ อันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและราษฎร เป็นระยะเวลายาวนาน โดยมิได้ทรงประสงค์สิ่งใดตอบแทน พระองค์ทรงสนับสนุนการสาธารณสุข โดยส่งเสริมให้พระราชโอรส คือ สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสงขลานครินทร์ ศึกษาด้านการสาธารณสุขและด้านการแพทย์ เพื่อพัฒนาการสาธารณสุขและการแพทย์ของประเทศไทย จนได้รับการยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งการแพทย์ไทย อีกทั้งทรงเป็นผู้ก่อตั้งสภากาชาดไทยการสังคมสงเคราะห์ การศึกษา และทรงเยี่ยมเยียนและสงเคราะห์อาณาประชาราษฎร์ โดยเฉพาะกับผู้ด้อยโอกาส ด้วยพระเกียรติคุณที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติ และอาณาประชาราษฎร์นานัปการ จนเป็นที่ประจักษ์ ได้รับการยกย่องจากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (UNESCO) ที่ได้ประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติคุณยกย่องให้สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านสาธารณสุข ด้านวัฒนธรรม
.
เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จเยี่ยมจังหวัดสงขลา วันที่ 18 มิถุนายน 2464 ได้โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดสงขลา ทรงพระราชทานนามโรงเรียนว่า “วรนารีเฉลิม” และพระราชทานตรา “กรอบพักตร์” เป็นตราประจำของโรงเรียน ทรงปลูกต้นพิกุลไว้ให้เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียน พร้อมกับพระราชทานพร และพระโอวาท ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณและเป็นเกียรติยศแก่ชาวสงขลา และชาววรนารีเฉลิมอย่างหาที่สุดมิได้
.