จ. สงขลา เข้าสู่ภาวะปกติหลังน้ำลด แต่ยังมีผลกระทบใน 16 อำเภอ ขณะที่กรมอุตุฯ เตือนฝนระลอกใหม่ 13 - 18 ธ.ค. คาดกระทบภาคใต้ตอนล่าง ขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์
. วันที่ 4 ธันวาคม 2567 นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เป็นประธานในการแถลงข่าวสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนถึง 4 ธันวาคม 2567 โดยมีนายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงภาคีเครือข่ายและสื่อมวลชนเข้าร่วม ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา และผ่านระบบ Video Conference เพื่อให้ข้อมูลการดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
. นายโชตินรินทร์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสงขลาที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยน้ำในลำน้ำสายหลักลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่สามารถกลับเข้าพื้นที่อยู่อาศัยได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมยังคงส่งผลกระทบในพื้นที่ 16 อำเภอ ครอบคลุม 125 ตำบล 949 หมู่บ้าน และ 249 ชุมชน โดยมีผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวม 691,016 ราย หรือ 235,896 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตสะสมจำนวน 10 ราย นอกจากนี้ยังมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัยจำนวน 1,943 ครัวเรือน รวม 6,142 คน
. ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยการแจกจ่ายอาหารสำเร็จรูป 383,623 กล่อง น้ำดื่ม 615,885 ขวด และถุงยังชีพจำนวน 141,373 ถุง นอกจากนี้ยังได้ตั้งโรงครัวพระราชทาน 3 แห่ง และโรงครัวในพื้นที่อีก 125 แห่ง เพื่อให้การช่วยเหลือด้านอาหารแก่ประชาชน รวมทั้งการแจกจ่ายยาและเวชภัณฑ์จำนวน 36,954 ชุด เพื่อดูแลสุขภาพของผู้ประสบภัย นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมอุปกรณ์สำคัญอื่นๆ เช่น เรือ 225 ลำ เครื่องสูบน้ำ 112 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 15 เครื่อง และกระสอบทรายจำนวน 160,604 กระสอบ เพื่อใช้ในการบรรเทาสาธารณภัย
. ด้านการช่วยเหลือทางการเงินจากรัฐบาล นายโชตินรินทร์กล่าวว่า กระทรวงการคลังได้เพิ่มวงเงินช่วยเหลือจากเดิม 500,000 บาท เป็น 1,000,000 บาท เพื่อให้สามารถพิจารณาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที รวมถึงความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กำชับให้อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาลตำบลและ อบต. ช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบที่กำหนด ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบไม่เกิน 7 วัน จะได้รับการช่วยเหลือในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ส่วนครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบเกิน 7 วัน ก็จะได้รับการช่วยเหลือในอัตรานี้เช่นกัน
. ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้เตือนถึงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังปานกลาง ร่วมกับหย่อมความกดอากาศต่ำที่คาดว่าจะเคลื่อนผ่านภาคใต้ตอนล่าง และลงสู่ทะเลอันดามัน ซึ่งทำให้บางพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกเพิ่มขึ้น และอาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ระหว่างวันที่ 13 - 18 ธันวาคม 2567 ในจังหวัดพัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี นราธิวาส และยะลา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกสะสมและน้ำท่วม รวมถึงคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างที่มีความแรง ซึ่งคลื่นอาจสูงถึง 2 เมตร หรือมากกว่านั้นในบางพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง
. สุดท้ายนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ โดยเฉพาะการเผยแพร่ข้อมูลที่สำคัญผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสื่อสังคมออนไลน์และสื่อมวลชน รวมถึงการช่วยเหลือด้านสาธารณสุข การแพทย์ และการเกษตร พร้อมทั้งขอบคุณชมรมแม่บ้านมหาดไทยและเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา กิ่งกาชาดอำเภอ ที่ได้ร่วมมือกับหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่