รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเหตุระเบิดไซต์งานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม อ.เทพา จ.สงขลา รุดเยี่ยมผู้ประสบภัยมอบเงินเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันจังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่สันติสุขไม่มีความขัดแย้งเรื่องศาสนา

20 พ.ย.67 เวลา 14.00 น. นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่มายังศูนย์บัญชาการเหตุการณ์เหตุระเบิดไซต์งานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม หมู่ 1 บ้านปากบางสะกอม ตำบลสะกอม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง คือ การให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน รายเเรก (ผู้เป็นพ่อ) นายสมพร นามเขียว อายุ 46 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจะนะ ก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อ X-ray ร่างกายโดยละเอียด ส่วน อีก 2 ราย คือ (แม่) นางสาวดอน แก้วลอย อายุ 45 ปี และ (ลูกสาว) เด็กหญิงบัณฑิตา วิทเวช อายุ 9 ปี 10 เดือน เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเทพา

ส่วนที่สอง คือ การเข้าควบคุมพื้นที่ ต้องเร่งทำพื้นที่ให้ปลอดภัยให้ชุด EOD พิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวนได้เข้าทำงาน ยืนยันมีการขนย้ายคนงานออกจากพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ส่วนนักเรียนที่มาเข้าค่ายจากจังหวัดยะลา ครูนักเรียน ราว 150 คน ฝ่ายความมั่นคงได้จัดรถหุ้มเกราะทหารลำเลียงทั้งหมดออกนอกพื้นที่ได้แล้วอย่างปลอดภัย สำหรับภายในรัศมี 1 กิโลเมตรโดยรอบจากจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เคลียร์พื้นที่เกือบ 100% แต่เพื่อความไม่ประมาท จึงจำเป็นต้องปิดกั้นพื้นที่หน่วงเวลาไว้อีก 90 ชั่วโมง เพื่อรอดูสถานการณ์ให้มีความปลอดภัยมากที่สุด

เรื่องที่ 3 คือ การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องของการได้รับบาดเจ็บทางร่างกายและทรัพย์สิน ทางจังหวัดก็จะดูแลตามระเบียบของราชการ โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจะเยียวยาตามระดับความรุนแรงของบาดแผล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินอาการ แต่เบื้องต้นจะให้การเยียวยาขั้นต่ำก่อนรายละ 10,000 บาทสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ, ความเสียหายเรื่องทรัพย์สิน เมื่อสามารถเข้าพื้นที่ปลอดภัยได้เเล้ว จะมีการสำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย โดยอำเภอเทพาจะเป็นผู้รวบรวมส่งเรื่องมายังจังหวัด ส่วนนี้จะทำในรูปของคณะกรรมการมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความเสียหายของรถ/ ยานพาหนะ ก็จะมีขนส่งจังหวัดเข้ามาร่วมดูแล

ยืนยันว่าจังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่พหุวัฒนธรรมไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งในเรื่องของศาสนา ทุกศาสนาสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ดังนั้นปมเหตุที่เกิดขึ้น ขออย่าพึ่งด่วนสรุปให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างรอบด้านก่อน

และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เห็นได้ว่าฝ่ายความมั่นคงมีการตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ทันทีตั้งเเต่ได้รับแจ้งเหตุ เพื่อดูแลพื้นที่และผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเป็นหนึ่งเดียว หากประชาชนและสื่อมวลชนต้องการทราบข้อมูลใด ๆ ก็สามารถประสานทางศูนย์ฯ ได้ ย้ำว่าผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กำชับทุกฝ่ายขอให้ทำงานภายใต้ความไม่ประมาท ยึดถือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและผู้ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ ประชาชนต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เดินทางต่อไปยังห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเทพา เยี่ยมให้กำลังใจ นางสาวดอน แก้วลอย และเด็กหญิงบัณฑิตา วิทเวช โดยแพทย์ผู้ให้การรักษาให้ข้อมูลว่า นางสาวดอน ได้รับบาดเจ็บ ขาซ้ายโดนสะเก็ดระเบิดเล็กน้อย ไม่ได้โดนเส้นเลือดสำคัญ และไม่โดนอวัยวะอื่น ส่วนเด็กหญิงบัณฑิตา ได้รับบาดเจ็บ 4 จุด คือบริเวณหลังคอ หน้าคอ หน้าท้อง และก้น บริเวณหลังคอโดนที่กล้ามเนื้อไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ หน้าท้องที่กล้ามเนื้อหน้าท้องด้านนอก ไม่ได้เข้าในช่องท้อง ที่ก้นโดนแค่ชั้นไขมัน หน้าคอด้านหน้ามีสะเก็ดระเบิดฝังเข้าไปใกล้กับเส้นเลือดแดงใหญ่ เเต่โชคดีที่ไม่โดนเส้นเลือด ซึ่งเเพทย์ต้องทำการผ่าตัดออก อาการโดยรวมยังคงที่ ผู้ได้รับบาดเจ็บยังมีกำลังใจดี มีทีมแพทย์คอยดูอาการอย่างใกล้ชิด

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายละ 10,000 บาท พร้อมมอบกระเช้าแสดงความห่วงใย จากผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา ขณะที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มอบกระเช้าแสดงความห่วงใยด้วย ทั้งนี้การช่วยเหลืออื่นๆ ทางอำเภอเทพาจะเป็นผู้ประสานให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกครั้ง.