รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดโครงการยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค มุ่งเสริมศักยภาพองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 18 - 19 พฤศจิกายน 2567

. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิด โครงการยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค ภายใต้กิจกรรมการขับเคลื่อนแผนงานด้านการคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 18-19 พฤศจิกายน 2567 ณ ห้องประชุมโรงแรมลากูน่า อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา โดยมีนางสาวทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นายฐิตินันท์ สิงหา ผู้อำนวยการกองกฎหมายและคดี นายรุ่งโรจน์ และสุบ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานระดับจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมถึงการเชื่อมโยงประชุมผ่านระบบออนไลน์ไปยัง 4 จังหวัด ได้แก่ สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

. นายเศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การดำเนินโครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนากลไกการคุ้มครองผู้บริโภคในพื้นที่ โดยยึดแนวทางตามพระราชบัญญัติกำหนดแผน และขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และแผนปฏิบัติการฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551 ซึ่งกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ถ่ายโอนภารกิจด้านการคุ้มครองผู้บริโภคให้แก่ท้องถิ่น โดยเน้นงานสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภค, การตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อสร้างความเข้าใจในสิทธิของผู้บริโภค

. ทั้งนี้ เพื่อสร้างการทำงานในเชิงรุก คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล โดยมุ่งเน้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถขับเคลื่อนภารกิจงานคุ้มครองผู้บริโภคได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั่วถึง ทั้งยังสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคในระดับภูมิภาคได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

. นายเศวต กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดโครงการครั้งนี้ นับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้เกี่ยวข้องได้รับแนวทางที่ชัดเจนในการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค รวมถึงการเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่ เพื่อพัฒนาศักยภาพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคในพื้นที่ต่อไป