องคมนตรี เปิดงานเกษตรภาคใต้ ครั้งที่ 31 ภายใต้แนวคิด “เกษตรยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ระหว่างวันที่ 8–17 สิงหาคม 2568 ผลักดันเกษตรยุคใหม่คู่สิ่งแวดล้อม.
วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “เกษตรภาคใต้” ครั้งที่ 31 อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “เกษตรยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8–17 สิงหาคม 2568 ณ คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมี นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พลตรี ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 นายวิวัธน์ชัย คงลำธาร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมโยธา รศ.ดร.สัณห์ชัย กลิ่นพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.ดร.ไชยวรรณ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมในพิธีอย่างคึกคัก.
รศ.ดร.ไชยวรรณ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จัดงาน “เกษตรภาคใต้” เป็นประจำทุกปีต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 31 ด้วยความร่วมมือจากองค์กรและหน่วยงานด้านการเกษตรและพัฒนาชุมชนในภาคใต้ ปีนี้จัดภายใต้แนวคิด “เกษตรยุคใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” สะท้อนความมุ่งมั่นยกระดับเกษตรกรรมให้ก้าวทันยุค ด้วยการบูรณาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ในด้านความมั่นคงทางอาหาร การผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน และการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและสังคมเกษตรไทย.
รศ.ดร.สัณห์ชัย กลิ่นพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระบุว่า งานเกษตรภาคใต้ครั้งนี้ มิได้เป็นเพียงเวทีแสดงผลงานหรือจำหน่ายสินค้าเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ การต่อยอดองค์ความรู้ใหม่ และการเชื่อมโยงภาคการผลิตกับนวัตกรรมที่ยั่งยืน ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมกำหนดทิศทางการเกษตรไทยในอนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม.
ด้าน พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กล่าวว่า แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปเพียงใด แต่การเกษตรยังคงเป็นรากฐานสำคัญของประเทศ เพราะเป็นต้นน้ำของภาคการผลิตอื่นๆ การจัดงานเกษตรภาคใต้ โดยคณะทรัพยากรธรรมชาติ ไม่เพียงเป็นแหล่งบริการความรู้แก่ชุมชนและเวทีแลกเปลี่ยนระหว่างนักวิจัย นักวิชาการ เกษตรกร และภาคเอกชน แต่ยังเป็นโอกาสฝึกประสบการณ์แก่นักศึกษา เสริมสร้างภาพลักษณ์ความมั่นคงให้พื้นที่ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดและภูมิภาคได้อย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้บริบทพหุวัฒนธรรมอันงดงามของท้องถิ่น.
ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การฝึกอบรม การสัมมนาวิชาการ นิทรรศการ การประกวด การสาธิต การให้คำปรึกษาทางวิชาการ การจำหน่ายสินค้าเกษตร เครื่องจักรกล และผลผลิตต่างๆ กว่า 460 ร้าน พร้อมอบรมด้านสุขาภิบาลอาหารแก่ผู้ประกอบการ และถ่ายทอดความรู้ด้านสินค้าและทักษะการประกอบการแก่นักศึกษา จุดเด่นของปีนี้ในด้านพืช ได้แก่ ทุเรียน ส้มโอ จำปาดะ ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ด้านปศุสัตว์ ได้แก่ แพะ ไก่เบขลา สุกร และด้านประมงและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ ปลาพวงชมพู ปลากัด ปลาสวยงาม และสาหร่ายทะเลเศรษฐกิจ
.
ณิชารีย์ // ข่าว
ธีรธรรม- จิรพัฒน์ // ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา