ชาวไทยมุสลิมใน จ.สงขลา ร่วมละหมาดฮายัตขอความสันติสุขเกิดขึ้นในพื้นที่ หลังเกิดเหตุคนร้ายกราดยิงพระสามเณร ใน อ.สะบ้าย้อย ขณะที่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา พร้อมจับมือทางจังหวัด ประกาศเจตนารมย์ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ...//
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงพระภิกษุและสามเณร ขณะออกเดินทางไปบิณฑบาต ในพื้นที่บ้านคลองเรียน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 เป็นเหตุให้มีสามเณรมรณภาพ 1 รูป พระภิกษุได้รับบาดเจ็บ 2 รูป สามเณรบาดเจ็บกระทบกระเทือนจิตใจ 3 รูป คนขับได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน
วันนี้ 25 เมษายน 2568 ที่ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา พี่น้องชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสงขลา พร้อมใจกันประกอบพิธีละหมาดวันศุกร์และขอดุอาร์ขอพร เพื่อให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ส่วนมัสยิดอีก 420 แห่งทั่วจังหวัด ต่างก็ประกอบพิธีพร้อมกัน เนื่องจากเหตุที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงเกินกว่าจะรับได้ โอกาสนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมละหมาดฮายัตและดุอาร์ขอพรร่วมกับพี่น้องชาวไทยมุสลิม พร้อมประกาศเจตนารมณ์ร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาในการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ สะท้อนถึงเจตนารมณ์ในการส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ บนพื้นฐานของความเข้าใจ การยอมรับ และการเคารพในคุณค่าของกันและกัน
นายเฉ็ม เหมมัน รองประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นเรื่องไม่คาดคิด เนื่องจากจังหวัดสงขลาเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีความสงบสุขมาโดยตลอด การกระทำรุนแรงเช่นนี้จึงสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อผู้เสียหายเป็นพระภิกษุและสามเณรผู้ตั้งใจศึกษาและปฏิบัติธรรม เพื่อถ่ายทอดคำสอนแห่งศาสนาเช่นเดียวกับชาวไทยมุสลิม ทั้งนี้ จุฬาราชมนตรีได้มีบัญชาให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดลงพื้นที่เพื่อเยียวยาและแสดงน้ำใจต่อผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน
ขณะที่ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดได้เชิญชวนให้มัสยิดทั้ง 420 แห่งร่วมขอดุอาร์ในวันศุกร์ ซึ่งถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้าให้เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย และขอให้สถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้คลี่คลาย ความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่ พร้อมร่วมเจตนารมย์กับส่วนราชการในการยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ ดังคำสอนของท่านนบีมูฮัมหมัดที่เน้นย้ำให้ชาวมุสลิมยึดมั่นในความสงบสุข รักแผ่นดินเกิด และละเว้นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะการบิดเบือนคำสอนของศาสนาเพื่อสร้างความแตกแยก ถือเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองอย่างยิ่ง
นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดช่วงเดือนรอมฎอนที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องไทยมุสลิมอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสวันศุกร์นี้ ได้เข้าร่วมพิธีละหมาดพร้อมชาวไทยมุสลิม ด้วยความตั้งใจแน่วแน่ที่จะเห็นจังหวัดสงขลาและสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง โอกาสนี้ ขอขอบคุณคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา อิหม่ามมัสยิดกลาง และผู้นำศาสนาอิสลามทุกท่าน ที่ได้ให้ความร่วมมือในการเน้นย้ำหลักคำสอนของพระเจ้า “พระอัลลอฮ์” อันส่งเสริมให้ผู้ศรัทธาดำเนินชีวิตด้วยความสันติ เคารพผู้อื่น และเชื่อฟังผู้นำท้องถิ่นเพื่อประโยชน์แห่งความสงบสุขของบ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จังหวัดสงขลา มีแนวทางที่จะส่งเสริมให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ โดยจะเชิญคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดหารือร่วมกับคณะสงฆ์ทั้งฝ่ายธรรมยุตและมหานิกาย รวมถึงผู้นำทุกศาสนา ร่วมจัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างศาสนาอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าทุกศาสนาในจังหวัดสงขลาจะสามารถดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และประชาชนสามารถประกอบอาชีพ ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขภายใต้สังคมที่มั่นคงและสงบสุข
ณิชารีย์ หนูบุญ - ข่าว
พงศธร บุญสุข -ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
25 เมษายน 2568