ครั้งแรกของภาคใต้! กับงาน SouthEx 2025 ปักหมุดหาดใหญ่ ชู “ศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารและการบริการ” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค มหกรรม B2B ครบวงจร ครอบคลุม 6 อุตสาหกรรมหลัก เชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดโลก . วันที่ 11 สิงหาคม 2568 ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ม.อ.หาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ”SouthEx 2025“ มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร การบริการ และธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรที่สุดครั้งแรกในภาคใต้! จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11 - 13 สิ่งหาคม 2568 โดยมี นางสาวกนกพร ดำรงกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดไมซ์ในประเทศ นายดำริ นามพญา เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิวิว แอดเวอร์ไทซิ่ง กรุ๊ป จำกัด ผศ. ดร. เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร พร้อมด้วย กงสุลใหญ่มาเลเซีย กงสุลใหญ่อินโดนีเซีย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ เข้าร่วม . งาน ”SouthEx 2025“ จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีสำคัญของผู้ประกอบการ (B2B) ในการเข้าถึงเทคโนโลยี นวัตกรรม และองค์ความรู้ใหม่ เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน พร้อมผลักดันให้ภาคใต้ก้าวสู่การเป็น Food & Hospitality Innovation Hub ของภูมิภาค โดยรวบรวมเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดจากทั่วโลก ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผู้เข้าชมจะได้พบกับผู้แสดงสินค้ากว่า 100 บริษัทชั้นนำ รวมถึงพาวิลเลียนจากต่างประเทศ เช่น Indonesia Pavilion และ Malaysia Pavilion ที่นำสินค้านวัตกรรมและไอเดียใหม่มาจัดแสดงเพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจระหว่างประเทศ . นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลาได้รับการประกาศให้เป็น MICE City ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะดึงดูดการประชุมระดับนานาชาติ พร้อมตั้งเป้าให้สงขลาเป็นศูนย์กลางการประชุม การค้า และการท่องเที่ยวที่เชื่อมโลก เนื่องจากสงขลามีศักยภาพสูง ทั้งในด้านทำเลที่ตั้งระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยตนได้วางแนวทางการพัฒนาจังหวัดใน 4 มิติ สำคัญ ได้แก่ (1) เศรษฐกิจ : ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรม การค้า และการท่องเที่ยว (2) สังคม : สร้างความเข้มแข็งและคุณภาพชีวิตที่ดี (3) ความมั่นคง : รักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย และ (4) ทรัพยากรยั่งยืน – อนุรักษ์และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า นอกจากนี้ยังมี 4 เส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ การขนส่งทางบก โดยมีสถานีรถไฟสงขลาและสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ , การขนส่งทางน้ำ เชื่อมพื้นที่กว่า 200,000 ตารางกิโลเมตร รวมถึงทะเลสาบสงขลา การท่องเที่ยวเชิงทรัพยากรและวัฒนธรรม ตลอดจนการพัฒนาเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ผ่านสินค้าและบริการ ผ่าน ”4 อ.“ ได้แก่ อาภรณ์ อาหาร อากาศ และอารมณ์ดี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสงขลา . “สงขลามีเสน่ห์ทั้งในด้านวัฒนธรรม อาหารอร่อย อาทิ ไก่ทอดหาดใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเลและทะเลสาบ รวมถึงกิจกรรมยามค่ำคืนในเมืองหาดใหญ่ที่ไม่เคยหลับใหล ในโอกาสนี้ ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันสร้าง “Paradise City ” ด้วยการปลูกไม้ดอกไม้ประดับ สร้างบรรยากาศสวยงามต้อนรับนักท่องเที่ยว และเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ปลายปีนี้” ผู้ว่าฯ สงขลา กล่าวทิ้งท้าย . ทั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญภายในงานกับ 6 โซนอุตสาหกรรมเด่น ตอบโจทย์ตลาดภาคใต้ ผู้เข้าชมงานจะได้พบกับโซลูชันและนวัตกรรมล่าสุดใน 6 โซนหลัก ได้แก่ 1. เทคโนโลยีอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drink Technology) : พบกับเครื่องจักรแปรรูปอาหารและเครื่องดื่มประสิทธิภาพสูง 2. บรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ฉลาก (Packaging & Labelling) : ชมการสาธิตเครื่องจักรบรรจุภัณฑ์และเครื่องพิมพ์ฉลากดิจิทัล 3. ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร (Hospitality & Restaurant) : รวบรวมอุปกรณ์และของตกแต่งสำหรับโรงแรม รีสอร์ท และร้านอาหาร 4. คลังสินค้าและโลจิสติกส์ (Warehouse & Logistics) : นำเสนอระบบจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะและโลจิสติกส์ครบวงจร 5. ผลิตภัณฑ์ฮาลาล (Halal Products) : นวัตกรรมการแปรรูปอาหารตามมาตรฐานฮาลาล และ 6. นวัตกรรมอาหาร (Food Innovation) : โซนสร้างแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจรุ่นใหม่พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเอกลักษณ์ของภาคใต้ . นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดสัมมนาจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ในหัวข้อ เช่น เทรนด์อาหารอนาคต การตลาดดิจิทัลสำหรับร้านอาหาร มาตรฐานการส่งออก และการขอรับรองฮาลาล พร้อมกิจกรรม Business Matching เพื่อสร้างโอกาสการค้า คาดว่าตลอด 3 วันของงาน จะก่อให้เกิดมูลค่าการเจรจาการค้าไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท

. ณิชารีย์ // ข่าว  ธีรธรรม - จิรพัฒน์ // ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา